รู้จัก “จันทรุปราคาเต็มดวง” คืนวันลอยกระทง 8 พ.ย.65 พลาดแล้วต้องรออีก 3 ปี

รู้จัก “จันทรุปราคาเต็มดวง” เห็นพระจันทร์เป็นสีแดง ในคืนวันลอยกระทง 8 พ.ย.65 พลาดครั้งนี้ ต้องรอดูอีกที 3 ปีข้างหน้า หรือวันที่ 8 กันยายน 2568

จันทรุปราคา

วันที่ 7 พ.ย. 2565 แฟนเพจ NARIT สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ โพสต์ข้อความว่า

จันทรุปราคา (Lunar Eclipses)ปรากฏการณ์จันทรุปราคา เป็นปรากฏการณ์ที่พระอาทิตย์ โลก รวมทั้งพระจันทร์โคจรมาอยู่ในแนวระนาบเดียวกัน โดยมีโลกอยู่ตรงกลางระหว่างพระอาทิตย์กับพระจันทร์ เกิดขึ้นเฉพาะในวันพระจันทร์เต็มดวง หรือ ช่วงข้างขึ้น 14-15 ค่ำ ระหว่างที่พระจันทร์โคจรผ่านเข้าไปในเงามืดของโลกที่ทอดไปในอวกาศ ผู้สังเกตบนโลกจะมองเห็นพระจันทร์เว้าแหว่งไปเรื่อยกระทั่งพระจันทร์เข้าไปอยู่ในเงามืดอีกทั้งดวง รวมทั้งเริ่มมองเห็นพระจันทร์
เว้าแหว่งอีกทีหนึ่งเมื่อพระจันทร์เขยื้อนออกจากเงามืดของโลก คนไทยสมัยโบราณเรียกปรากฏการณ์นี้ว่า “ราหูอมจันทร์”

เงาของโลกที่ทอดไปในอวกาศแบ่งเป็น 2 ประเภท ตัวอย่างเช่น “เงามัว (Penumbra Shadow)” เป็นเงาส่วนนอกสุด เมื่อพระจันทร์เข้ามาอยู่ในเงาส่วนนี้จะมีความสว่างน้อยลงน้อย รวมทั้ง “เงามืด (Umbra Shadow)” เป็นเงาที่มืดสนิท เมื่อพระจันทร์เข้ามาอยู่ในเงาส่วนนี้จะก่อให้เกิดส่วนมืดเว้าแหว่ง จึงแบ่งประเภทของปรากฏการณ์จันทรุปราคาได้ดังต่อไปนี้

1. จันทรุปราคาเต็มดวง (Total Lunar Eclipse)
เกิดขึ้นเมื่อพระจันทร์อีกทั้งดวงเขยื้อนเข้าไปอยู่ในเงามืดของโลก จะมองเห็นพระจันทร์เป็นสีส้มหรือสีแดงอิฐ เนื่องจากว่าแสงขาวจากพระอาทิตย์จะถูกหักเหเมื่อผ่านชั้นบรรยากาศโลก สีแดงรวมทั้งสีส้มเบี่ยงทิศทางเข้าพบกลางเงามืด จึงมองเห็นพระจันทร์เป็นสีแดงระหว่างเกิดปรากฏการณ์จันทรุปราคาเต็มดวง

2. จันทรุปราคาบางส่วน (Partial Lunar Eclipse) เกิดขึ้นเมื่อพระจันทร์เขยื้อนผ่านเงามืดของโลกเพียงแค่บางส่วน โดยจะมองเห็นพระจันทร์มีลักษณะเว้าแหว่ง

3. จันทรุปราคาเงามัว (Penumbral Lunar Eclipse) เกิดขึ้นเมื่อพระจันทร์เขยื้อนผ่านเข้าไปเงามัวของโลก โดยไม่ผ่านเงามืด เรายังคงมองเห็นพระจันทร์เต็มดวง แต่ความสว่างลดลง สังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงค่อนข้างยาก

จันทรุปราคาเต็มดวง

จันทรุปราคาเต็มดวง คืนวันลอยกระทง 2565

สำหรับปรากฏการณ์จันทรุปราคาในวันอังคารที่ 8 พ.ย. 2565 คืนวันลอยกระทง เป็นปรากฏการณ์ “จันทรุปราคาเต็มดวง” เกิดขึ้นในช่วงราว ๆ 15.02 – 20.56 น. (ตามเวลาของไทย) สังเกตได้จากหลายพื้นที่ทั่วทั้งโลก ตัวอย่างเช่น ทวีปยุโรปตอนเหนือรวมทั้งตะวันออก ทวีปเอเชีย ทวีปออสเตรเลีย ทวีปอเมริกาเหนือ บางส่วนของทวีปอเมริกาใต้ มหาสมุทรแปซิฟิก มหาสมุทรแอตแลนติก มหาสมุทรอินเดีย ขั้วโลกเหนือ รวมทั้งบางส่วนของขั้วโลกใต้

ประเทศไทย พระจันทร์จะโผล่พ้นขอบฟ้าทางทิศตะวันออกเวลา 17.44 น. จึงไม่อาจจะสังเกตช่วงแรกของการเกิดปรากฏการณ์ได้ รวมทั้งจะเริ่มเห็นได้ขณะเกิดจันทรุปราคาเต็มดวงพอดี มองเห็นได้ด้วยตาเปล่าทุกภูมิภาคของประเทศไทย บริเวณขอบฟ้าทางทิศตะวันออก ตั้งแต่เวลา 17.44 น. เป็นต้นไป ช่วงที่เกิดคราสเต็มดวง พระจันทร์จะปรากฏเป็นสีแดงอิฐ จนถึงเวลา 18.41 น. รวมระยะเวลานาน 57 นาที

ปรากฏการณ์จันทรุปราคาเต็มดวงเหนือฟ้าเมืองไทยคราวถัดไป จะเกิดขึ้นในอีก 3 ปีข้างหน้า ในวันที่ 8 กันยายน 2568